มีหนุ่มใหญ่นายหนึ่งได้โพสเรื่องราวกับ Drop Test สุดระทึก กับเจ้า Galaxy S3 จากชั้น 10 คอนโด เรื่องราวตามท้องเรื่องมีอยู่ว่า
"เมื่อวันเสาร์ ขณะที่ผมกำลังจะออกไปธุระข้างนอก มันเป็นวันธรรมดาๆ ที่ดูสดใส
ผมกำลังจะไปออกรถคันใหม่ ทุกๆอย่างดูเป็นใจ ท้องฟ้าดูสดใส อา .... สุขใจจริงๆ
ในขณะที่ผมกำลังจะเดินเข้าลิฟท์ ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อความจากเพื่อน
แต่มันเป็นจังหวะที่น้องชายผมกำลังแกว่งแขนอยู่พอดี มือทั้งสองสอดประสาท
ฉุดกระชาก Galaxy S3 อายุ 10 วันให้หลุดลอยเป็นอิสระ
ด้่วยความบางเฉียบเพียง 8.6 มิลลิเมตรของมัน บวกกับความพริ้วไหวของ Design for Human
มันจึงหลุดรอดผ่านช่องว่างแคบๆของพื้นคอนโดและลิฟท์โดยสาร ดำดิ่งลงสู่ชั้น 1 ผ่านปล่องลิฟท์
เป็น 1-2 วินาทีที่ไม่มีเสียงอะไรเลย ไม่มีแม้แต่เสียงอุทาน ทุกคนในที่นั้นตกอยู่ในภวังค์
จนกระทั่งมันเดินทางไปถึงจุดหมาย เสียงตึงเบาๆจึงก้องสะท้อนกังวาลมาตามปลุกให้ทุกคนตื่นจากความฝัน
ในใจของผมเวลานั้น ได้เห็นนิมิตที่ชัดเจน โมดูลกล้องคงจะอยู่ตรงนี้ ไมค์คงจะอยู่ตรงนั้น หน้าจอกระจายไปทั่วพื้น
แต่เมื่อช่างอาคารเปิดประตูลิฟท์ออกมา สิ่งที่เห็นมันช่างประหลาดใจนัก
มีเพียงหน้าจอที่แตกร้าง แบตที่หลุดออก แต่นอกนั้นยังอยู่ยึดติดเป็นชิ้นเดียวกัน แม้แต่ซิมการ์ดก็ยังอยู่ในช่อง
ผมเช็ดทำความสะอาดเครื่อง แล้วลองใส่แบต แน่ล่ะ ปาฏิหารย์ไม่มีจริง หน้าจอเสีย ไม่สามารถแสดงภาพได้
แต่ที่น่าประหลาดใจคือ 3G ยังคงทำงานอยู่ เสียงเตือนต่างๆยังคงดังอย่างไม่ขาดสาย
ตลอดระยะทางที่ผมเดินทางไปยังศูนย์บริการ เสียงเตือนจากแอพแชทยอดนิยมยังคงดังตลอดเวลา
ไอ้เพื่อนบ้า .... โทรศัพท์ชั้นพัง .... ทักมาตอกย้ำความช้ำชอกกันทำไม
หลังจากเข้าศูนย์บริการ ผมบอกช่างว่าให้เช็คภายในทั้งหมดทุกส่วนสัด แต่สิ่งที่ช่างทำคือเพียงแค่เปลี่ยนหน้าจอที่แตกร้าว
เมื่อผมได้รับเครื่องกลับคืนมา สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งนักก็ประจักษ์แก่สายตา
3G, WiFi, Camera, VIbration, GPS, Gyroscope, Magnetic และทุกสิ่งอย่างยังคงทำงานเป็นปรกติ
มีเพียงสิ่งเดียวที่เสียหายไปไม่อาจชุบชีวิตคืนมาได้คือไฟเตือนสถานะ LED ...
ผมได้รับคำอธิบายจากน้องชาย ผู้ซึ่งอธิบายตามหลักวิศวกรรมวัสดุ แต่พี่มันฟังไม่เข้าใจ ∆T อะไรซักอย่าง
แต่พอจะสรุปมาเป็นสาระตามแบบฉบับผู้ไม่เข้าใจได้สั้นๆว่า
"ที่มันรอดมาได้ ไม่กระจายเป็นชิ้นๆ เพราะมันทำจากพลาสติกอ่ะ ถ้าเป็นโทรศัพท์ที่ทำจากโลหะ คงเละไปแล้ว"สรุปแล้วผมควรจะปลื้มไหมเนี่ย กับโทรศัพท์วัสดุกิ๊กก๊อก ... ที่รอดชีวิตจากการตกตึก 10 ชั้น ฮาาาาา"
จะเห็นว่า เกิดความเสียหายขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อาจจะเป็นเพราะว่าระหว่างเดินทางสู่พื้นโลกไปกระทบอะไรบางอย่างก่อนเลยช่วยลดแรงกระแทกลงได้บ้าง
งานนี้ได้พิสูจน์ว่า Galaxy S3 ไม่ได้กิ๊กก๊อกอย่างที่คิด แต่อย่างไรก้ดี ไม่ควรทำมันตกจะดีที่สุด ฮา.....
ไปดูภาพประกอบกันดีกว่า
ที่มา pantip.com
"เมื่อวันเสาร์ ขณะที่ผมกำลังจะออกไปธุระข้างนอก มันเป็นวันธรรมดาๆ ที่ดูสดใส
ผมกำลังจะไปออกรถคันใหม่ ทุกๆอย่างดูเป็นใจ ท้องฟ้าดูสดใส อา .... สุขใจจริงๆ
ในขณะที่ผมกำลังจะเดินเข้าลิฟท์ ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อความจากเพื่อน
แต่มันเป็นจังหวะที่น้องชายผมกำลังแกว่งแขนอยู่พอดี มือทั้งสองสอดประสาท
ฉุดกระชาก Galaxy S3 อายุ 10 วันให้หลุดลอยเป็นอิสระ
ด้่วยความบางเฉียบเพียง 8.6 มิลลิเมตรของมัน บวกกับความพริ้วไหวของ Design for Human
มันจึงหลุดรอดผ่านช่องว่างแคบๆของพื้นคอนโดและลิฟท์โดยสาร ดำดิ่งลงสู่ชั้น 1 ผ่านปล่องลิฟท์
เป็น 1-2 วินาทีที่ไม่มีเสียงอะไรเลย ไม่มีแม้แต่เสียงอุทาน ทุกคนในที่นั้นตกอยู่ในภวังค์
จนกระทั่งมันเดินทางไปถึงจุดหมาย เสียงตึงเบาๆจึงก้องสะท้อนกังวาลมาตามปลุกให้ทุกคนตื่นจากความฝัน
ในใจของผมเวลานั้น ได้เห็นนิมิตที่ชัดเจน โมดูลกล้องคงจะอยู่ตรงนี้ ไมค์คงจะอยู่ตรงนั้น หน้าจอกระจายไปทั่วพื้น
แต่เมื่อช่างอาคารเปิดประตูลิฟท์ออกมา สิ่งที่เห็นมันช่างประหลาดใจนัก
มีเพียงหน้าจอที่แตกร้าง แบตที่หลุดออก แต่นอกนั้นยังอยู่ยึดติดเป็นชิ้นเดียวกัน แม้แต่ซิมการ์ดก็ยังอยู่ในช่อง
ผมเช็ดทำความสะอาดเครื่อง แล้วลองใส่แบต แน่ล่ะ ปาฏิหารย์ไม่มีจริง หน้าจอเสีย ไม่สามารถแสดงภาพได้
แต่ที่น่าประหลาดใจคือ 3G ยังคงทำงานอยู่ เสียงเตือนต่างๆยังคงดังอย่างไม่ขาดสาย
ตลอดระยะทางที่ผมเดินทางไปยังศูนย์บริการ เสียงเตือนจากแอพแชทยอดนิยมยังคงดังตลอดเวลา
ไอ้เพื่อนบ้า .... โทรศัพท์ชั้นพัง .... ทักมาตอกย้ำความช้ำชอกกันทำไม
หลังจากเข้าศูนย์บริการ ผมบอกช่างว่าให้เช็คภายในทั้งหมดทุกส่วนสัด แต่สิ่งที่ช่างทำคือเพียงแค่เปลี่ยนหน้าจอที่แตกร้าว
เมื่อผมได้รับเครื่องกลับคืนมา สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งนักก็ประจักษ์แก่สายตา
3G, WiFi, Camera, VIbration, GPS, Gyroscope, Magnetic และทุกสิ่งอย่างยังคงทำงานเป็นปรกติ
มีเพียงสิ่งเดียวที่เสียหายไปไม่อาจชุบชีวิตคืนมาได้คือไฟเตือนสถานะ LED ...
ผมได้รับคำอธิบายจากน้องชาย ผู้ซึ่งอธิบายตามหลักวิศวกรรมวัสดุ แต่พี่มันฟังไม่เข้าใจ ∆T อะไรซักอย่าง
แต่พอจะสรุปมาเป็นสาระตามแบบฉบับผู้ไม่เข้าใจได้สั้นๆว่า
"ที่มันรอดมาได้ ไม่กระจายเป็นชิ้นๆ เพราะมันทำจากพลาสติกอ่ะ ถ้าเป็นโทรศัพท์ที่ทำจากโลหะ คงเละไปแล้ว"สรุปแล้วผมควรจะปลื้มไหมเนี่ย กับโทรศัพท์วัสดุกิ๊กก๊อก ... ที่รอดชีวิตจากการตกตึก 10 ชั้น ฮาาาาา"
จะเห็นว่า เกิดความเสียหายขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อาจจะเป็นเพราะว่าระหว่างเดินทางสู่พื้นโลกไปกระทบอะไรบางอย่างก่อนเลยช่วยลดแรงกระแทกลงได้บ้าง
งานนี้ได้พิสูจน์ว่า Galaxy S3 ไม่ได้กิ๊กก๊อกอย่างที่คิด แต่อย่างไรก้ดี ไม่ควรทำมันตกจะดีที่สุด ฮา.....
ไปดูภาพประกอบกันดีกว่า
ที่มา pantip.com